จิตยึดมั่นถือมั่น
บางทีมารดาบิดาเป็นบุตรของลูกก็ได้ สามีภรรยาบางทีก็อาจจะไปเป็นลูกของสามีของก็ได้ บางทีก็อาจจะไปเป็นลูกของภรรยาก็ได้ เหมือนกับนิทานท่านกล่าวไว้ว่า มีคนๆหนึ่งเป็นห่วยใยในภรรยา เมื่อเวลาเป็นห่วงเป็นใย ต่อมาเป็นโรคก็เลยถึงแก่ความตาย จิตอันนั้นมันเลยไปเกาะอยู่ในภรรยา เมื่อเวลาไปเกาะอยู่ในภรรยาแล้วก็เลยไปเกิดเป็นสุกร สุกรอยู่ในป่า เมื่อไปเกิดเป็นสุกรแล้ว ฝ่ายภรรยาก็ไปดูนาก็เลยไปเจอสุกร สุกรตัวนั้นก็นึกว่าเป็นภรรยาของตน ก็เลยทำกิริยาออกมาเหมือนอย่างสัตว์ที่เคยเลี้ยง พอออกมา "สุกรตัวนี้มันทำอะไร มันคุ้นเคยกับเรา" วันหลังเจอนายพรานเลยเล่าให้ฟัง มีสุกรตัวหนึ่งมาอยู่ตามพุ่มไม้ นายพรานเขารู้จักเขาก็เลยไป พอไปสุกรตัวนั้นก็นึกว่าเป็นภรรยาของตนก็เลยออกมาชื่นชม นายพรานก็ยิงตาย แล้วจิตอันนั้นก็ยังเกาะอยู่กับภรรยาอีก เมื่อเวลาเป็นห่วงเลยมาเกิดเป็นควายที่บ้านของภรรยา เมื่อเวลาเกิดไปเป็นควายแล้วก็เจริญเติบโตขึ้นมา เห็นภรรยาไปที่ไหนก็ไปด้วย ติดตามอยู่อย่างนั้น ไปๆมาๆ ชาวบ้านพอเวลาเห็นอาการกิริยาอย่างนั้นก็กลัวควาย สัตว์ตัวนี้เป็นตัวผู้เสียด้วย "มันตามเราไปมาอยู่ เราไปเรือกสวนก็ติดตามไป" ก็เลยกลัวชาวบ้านจะตำหนินินทา ก็เลยสั่งให้เอาไปฆ่า พอเอาไปฆ่าชำแหละเนื้อไปซื้อขาย ต่อมาจิตอันนั้นมันยังเกาะอยู่ ก็เลยมาเกิดเป็นสุนัข เกิดอยู่ที่บ้านของภรรยานั้น พอเกิดเป็นสุนัขเมื่อเวลาเจริญเติบโตขึ้นมา ก็เห็นภรรยาไปที่ไหน ก็ถือว่าเป็นภรรยาของตน เหมือนกับที่เคยมา ติดตามไปเรื่อย ไปนา ไปเรือกสวน ก็ติดตามไป ต่อมาสงสัยว่าสุนัขตัวนี้ทำไมติดตามเรา เราไปไหนก็จะไปด้วย เพราะว่าเขาจะตำหนิติโทษ เขาจะนินทาเรา เลยสั่งให้เขาฆ่าสุนัข จิตใจอันนั้นก็ยังเกาะอยู่กับภรรยา ผลสุดท้ายก็เลยจิตใจอันนั้นก็รอเวลา ได้เวลาแล้วก็เกิดเป็นงู มันก็มาอยู่ที่ประตูบ้าน เมื่อเวลาเอาเกาะอยู่ที่ประตูห้อยหัวอยู่ เมื่อเวลาภรรยาเข้ามาก็โยนตัว ห้อยโหนตัว แต่ภรรยาพอมองเห็น เลยขว้างค้อนออกมาทุบมันตาย จิตอันนั้นยังเกาะภรรยา ต่อมาภรรยาก็เลยมีสามีใหม่ ก็เลยมาปฏิสนธิในครรภ์ภรรยา พอปฏิสนธิเจริญเติบโตแล้วคลอดออกมา จึงระลึกชาติได้ว่านี้เป็นภรรยาของเรา ภรรยาให้นมกินก็ไม่ยอมกิน ร้องไห้จนเติบโตขึ้นมาบอกว่าแม่ตนเองไม่ใช่แม่ เป็นภรรยาของเรา พอเติบโตมาเลยบวชเป็นสามเณร พอบวชแล้วประพฤติปฏิบัติคุณงามความดี ตายไปอยู่ในพกามาวจร นี้ก็เนื่องจากความยึดถือนี้